รีวิว Gadar 2 (2023)

Gadar 2 ภาพยนตร์ดราม่าแอคชั่นสไตล์พรีเรียทจากอินเดีย ผลงานกำกับและอำนวยการสร้างโดย Anil Sharma ซึ่งนี่ถือว่าเป็นภาคต่อของ Gadar ที่ได้ฉายก่อนหน้านี้แล้วในปี 2001 และถูกหยิบยกมาทำภาคต่อกันอีกครั้ง นำแสดงโดย Sunny Deol, Ameesha Patel และ Utkarsh Sharma ซึ่งกลับมารับบทเดิมจากเรื่องที่แล้ว

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ดำเนินเรื่องต่อจากภาคแรกเป็นเวลากว่า 22 ปี ทารา ซิงห์ (รับบทโดย Sunny Deol) ยังคงใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขกับภรรยาและลูกชายในอินเดีย แต่แล้ววันหนึ่ง เจต (รับบทโดย Utkarsh Sharma) ลูกชายของเขาถูกลักพาตัวไปโดยกองทัพปากีสถาน ทาราจึงต้องออกตามหาเจตและพาเขากลับมาให้ได้ ทั้งฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย จากการไล่ล่าของกองทัพปากีสถาน การต่อสู้กับกลุ่มกบฏ และการเดินทางข้ามแดนที่กินเวลายาวนานกว่าหลายวัน

ในระหว่างการเดินทาง ทาราได้พบกับ ซาคีน่า (รับบทโดย Ameesha Patel) หญิงสาวชาวปากีสถานที่เกิดตกหลุมรักเขาขึ้นมา ซาคีน่าได้ให้ความช่วยเหลือทาราในการตามหาเจต จนทั้งคู่ก็ได้ตกหลุมรักกันในที่สุด จนในที่สุดนั้น ทาราก็สามารถพาเจตกลับมาได้ แต่พวกเขายังต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสุดท้าย เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักของตัวเองและความสงบสุขของบ้านเมืองที่ต้องการเขาอยู่

ต้องบอกว่า Gadar 2 เป็นภาพยนตร์ที่มีจุดเด่นทำออกมาได้ดีจากภาคแรกมากๆ ด้วยความที่ภาคก่อนเป็นหนังที่เก่ามากกว่า 22 ปีมาแล้ว ดังนั้นเราจึงได้เห็นพัฒนาการที่มากขึ้น ทั้งบท ฉาก พล็อต และการแสดง เราจะได้รับชมเรื่องราวที่เข้มข้นน่าติดตามทีเดียว ฉากต่อสู้แอคชั่นสุดมันส์ ได้เห็นการจำลองสงครามที่สมจริง และบทในส่วนของความรักที่ถือว่าโรแมนติกสไตล์อินเดียมากอีกด้วย

ฉากหลังของภเรื่องนี้เราก็จะได้เห็นหลากหลายมุมของอินเดียที่ชมแล้วรู้สึกน่าเที่ยวมากๆ เพราะถ่ายทำโดยใช้สถานที่จริงในอินเดียและปากีสถาน ฉากต่างๆ นำเสนอโดยใช้มุมกล้องได้เหมาะจึงได้ภาพออกมามู้ดโทนดีทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีจุดด้อยเหมือนกันสำหรับเรื่องนี้ตรงที่ค่อนข้างเดินเรื่องช้าไปหน่อย บวกกับความดราม่าที่ออกไปแนวน้ำเน่าเยอะเกินไป สไตล์หนังอินเดียที่เมื่ออิงความรักแล้วก็จะมาโทนนี้เสียทุกเรื่องเลย

สรุปโดยรวมนั้นเรียกว่า Gadar 2 ถือเป็นการกลับมาของเรื่องราวในภาคแรกกว่า 20 กว่าปี ที่อาจจะไม่ได้โดดเด่นหรือมีอะไรหวือหวาน่าสนใจมากขนาดนั้น แต่กระแสเรื่องนี้ในประเทศเจ้าบ้านอย่างอินเดียก็ถือว่ามาแรงทีเดียว หากใครที่อยากรับชมหนังที่สนุกมันส์ ได้ครบทุกรสชาติ ทั้งแอคชั่น โรแมนติก และดราม่า ก็จัดว่าเป็นอีกเรื่องที่ดูได้สนุกเพลินๆ แถมยังมีกลิ่นอายของแนวสงครามและประวัติศาสตร์อีกด้วย